Health

  • อาการไอ แบบไหนควรไปพบแพทย์
    อาการไอ แบบไหนควรไปพบแพทย์

    อาการไอ เป็นกลไกการตอบสนองของร่างกายอย่างหนึ่งต่อสิ่งผิดปกติในทางเดินหายใจ และเป็นกลไกป้องกันที่สำคัญของร่างกายในการกำจัดเชื้อโรค เสมหะหรือสิ่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจ นอกจากนี้อาการไอยังเป็นทางที่สำคัญในการแพร่กระจายของการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การไอมีหลายสาเหตุ สามารถป้องกันได้ แต่หากเป็นระยะเวลานานควรไปพบแพทย์

    อาการไอ

    อาการไอ เป็นกลไกอย่างหนึ่งของการป้องกันระบบหายใจไม่ให้ได้รับอันตราย ปกติเราหายใจเอาอากาศเข้าออกผ่านปอดวันละมากๆ (ประมาณ 8,000 – 12,000 ลิตรต่อวันขึ้นกับปริมาณการทำงานและการออกกำลัง) ขณะที่ในอากาศมีของเสียที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจปะปนอยู่ ยิ่งอยู่ในเมืองยิ่งมีมากจากการสูบบุหรี่ มลภาวะเป็นพิษอาจเป็นในรูปฝุ่นละออง ก๊าซเคมี และเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อไวรัสต่างๆ

    ร่างกายจึงมีวิธีกำจัดสิ่งเหล่านั้นออกไปเพื่อลดอันตรายของทางเดินหายใจลง ผงฝุ่นละอองขนาดโตเมื่อหายใจเข้าไป (โตเกินกว่า 10 ไมครอน) ส่วนใหญ่จะติดอยู่ในส่วนโพรงจมูกและหลอดลมส่วนบน มีฝุ่นที่มีขนาดเล็กเท่านั้นที่จะผ่านลงไปในหลอดลมส่วนล่างได้ ดังนั้นผงฝุ่นละอองขนาดเล็กจะมีอันตรายกว่าผงฝุ่นละอองขนาดใหญ่

    ลักษณะและสาเหตุของอาการ

    • ไอมีเสมหะ

    พบในภาวะติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ  เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน โรคปอดอุดกลั้นเรื้อรัง อันเป็นผลจากการที่ร่างกายมีการขับสารเมือก หรือสารคัดหลั่งออกมาในระบบหายใจ จนทำให้เกิดอาการไอร่วมกับมีเสมหะ

    • ไอแห้ง

    เกิดจากการระคายคอหรือระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง จนกระตุ้นให้เกิดการไอ โดยไม่มีเสมหะปน สาเหตุที่พบได้ เช่น ภาวะกรดไหลย้อน โรคหลอดลมอักเสบ ยาลดความดันโลหิตกลุ่มของ ACEi inhibitor และเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนไข้ COVID-19

    • ไอเสียงก้อง

    พบในเด็ก เกิดจากการบวมของระบบทางเดินหายใจส่วนบน บริเวณกล่องเสียง และหลอดลม หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่าโรคครูฟ คนไข้อาจมีอาการหายใจลำบาก เสียงแห้ง หายใจมีเสียง ไข้ ร่วมกับการไอเสียงก้อง

    อาการไอที่พบเวลากลางคืน เป็นผลจากการระคายเคืองของระบบทางเดินหายใจที่ถูกกระตุ้นในช่วงกลางคืน อาจสัมพันธ์กับท่าทาง เช่น เสมหะไหลลงคอขณะนอน ที่พบได้ในโรคไซนัสอักเสบ โรคภูมิแพ้ อีกทั้งอากาศเย็น หรือ สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของหลอดลม ส่งผลให้ไอมากขึ้น โดยเฉพาะคนไข้โรคหืด

    สาเหตุของการไอ

    • สิ่งแปลกปลอมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ เช่น ฝุ่น ควัน มลภาวะ ไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้
    • การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ วัณโรค เป็นต้น
    • โรคเรื้อรังบางชนิด เช่น กรดไหลย้อน ทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ ทำให้มีอาการไอได้
    • ยาบางประเภท เช่น ยาลดความดันกลุ่ม ACE inhibitors อาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงคือทำให้ผู้ป่วยไอ

    การบรรเทาอาการไอ

    • จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ เนื่องจากน้ำอุ่นสามารถบรรเทาอาการระคายเคืองคอ บรรเทาอาการคอแห้ง ทำให้ชุ่มคอ และสามารถช่วยละลายเสมหะที่ข้นเหนียว
    • การใช้ยาอม และยาจิบบรรเทาอาการ ที่มีส่วนผสมที่ช่วยทำให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการคอแห้ง ระคายเคืองซึ่งเป็นสาเหตุของการไอ และยังสามารถช่วยขับเสมหะ
    • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากควันบุหรี่ และสารอื่นๆ กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองคอ ทำให้ไอได้ นอกจากนี้ ควันบุหรี่ยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และถุงลมโป่งพอง ที่เป็นสาเหตุของอาการไอเรื้อรังอีกด้วย
    • การใช้เครื่องพ่นไอน้ำ ช่วยรักษาความชื้นในห้องไม่ให้แห้งเกินไป สามารถป้องกันการไอเนื่องจากคอและทางเดินหายใจแห้งได้
    • หลีกเลี่ยงฝุ่นควัน สเปรย์ต่างๆ ที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองคอและทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เกิดอาการไอได้ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้หน้ากากที่สามารถกรองฝุ่น จะสามารถป้องกันอาการได้
    • ใช้ยาสำหรับบรรเทาอาการ ซึ่งมีทั้งยาที่ช่วยกดอาการไอ เพื่อบรรเทาการไอแห้ง และยาละลายเสมหะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่ร้านยาเอ็กซ์ต้าพลัส และร้านยาทั่วไป

    ทั้งนี้ วิธีบรรเทาอาการไอด้วยตนเอง ตามวิธีดังกล่าว ถือเป็นการบรรเทาอาการเบื้องต้น แต่หากมีไอติดต่อกันมากกว่า  2 สัปดาห์ มีไอเป็นเลือด หรือไม่สามารถบรรเทาอาการไอด้วยตนเองได้ รวมถึงมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น หายใจมีเสียง มีไข้สูง หายใจติดขัด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสม

    อาการไอ

    ระยะอาการไอที่ควรมาพบแพทย์

    สามารถแบ่งตามระยะเวลาได้เป็น 3 กลุ่ม คือ

    1. อาการไอเฉียบพลัน คือการไอที่น้อยกว่า 3 สัปดาห์

    2. อาการไอกึ่งเฉียบพลัน คืออการไอตั้งแต่ 3 – 8 สัปดาห์

    3. อาการไอเรื้อรัง คือการไอต่อเนื่องที่มากกว่า 8 สัปดาห์ขึ้นไป

    แนะนำให้มาพบแพทย์  กรณีที่อาการไอเป็นลักษณะไอเรื้อรัง หรือมีอาการผิดปกติอื่นร่วม เช่น ไอเสมหะปนเลือด เสียงแหบ ไข้ น้ำหนักลด หอบเหนื่อย ปอดอักเสบติดเชื้อบ่อยๆ กลืนเจ็บ  กลืนลำบาก สำลัก ทั้งนี้เพื่อการตรวจวินิจฉัย และให้การรักษาที่เหมาะสม

    แนวทางการรักษา

    เนื่องจากอาการไอ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นการรักษา จำเป็นที่จะต้องทำการตรวจวินิจฉัยถึงสาเหตุของอาการ และให้การรักษาตามสาเหตุนั้นๆการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยเอง ก็เป็นส่วนสำคัญในการรักษาอาการได้มาก โดยการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่างๆ ที่ทำให้เกิดการไอ เช่นสารก่อการระคายเคือง ฝุ่น สารเคมี ควันบุหรี่ หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมโดยตรง เนื่องจากอากาศเย็นจะกระตุ้นหลอดลมให้เกิดการหดตัว ควรทำให้ร่างกายอบอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ กรณีที่สูบบุหรี่ ควรงดการสูบบุหรี่

    โรคที่เป็นสาเหตุการไอ

    โรคที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการไอบ่อยอื่นๆ ได้แก่ การอักเสบเรื้อรังในปอด เช่น วัณโรค หลอดลมอักเสบเป็นหนองเรื้อรัง (Bronchiectasis) ฝีในปอด และมะเร็งในปอด เป็นต้น แต่ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักเอกซเรย์ปอดผิดปกติ

    สำหรับโรคที่ทำให้เกิดการไอเรื้อรังและมีเอกซเรย์ปอดปกติ ที่พบบ่อยได้แก่

    • โรคหอบหืด (Bronchial Asthma) 

    ผู้ป่วยโรคหอบหืดโดยทั่วไปจะมีอาการไอ เหนื่อยง่าย และหายใจมีเสียงวี๊ด แต่ก็มีผู้ป่วยอีกจำนวนมากมีโรคหอบหืดชนิดที่ไม่รุนแรง บางรายไม่เคยมีอาการหืดจับหรือเหนื่อยง่ายเลย มีเพียงไอเรื้อรังเท่านั้น (พบว่าประมาณ 25% ของผู้ป่วยโรคหอบหืดไม่เคยมีอาการหืดจับ) แต่ถ้าตรวจสมรรถภาพปอดจะพบว่า หลอดลมมีความไวต่อสิ่งเร้า (Bronchial Hyperresponsiveness หรือ BHR) นอกจากนั้นผู้ป่วยพวกนี้ที่มีอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง การตรวจเสมหะจะพบเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Eosinophils แทนที่จะเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Neutrophils อย่างที่เห็นในหลอดลมอักเสบทั่วไป Eosinophilic Bronchitis นี้ถือเป็น Cough – Variant Asthma คือ เป็นโรคหอบหืดที่มีหลอดลมตีบแบบไม่รุนแรงจึงไม่มีอาการหอบหืด

    • ผู้ป่วยซึ่งเป็นโรคแพ้อากาศและมีจมูกอักเสบเรื้อรัง (Allergic Rhinitis) 

    ผู้ป่วยพวกนี้จะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล และมีน้ำมูกไหลลงในคอเวลานอน (Postnasal Drip) ทำให้มีการไอเรื้อรัง ผู้ป่วยอาจมีไซนัสอักเสบ (Paranasal Sinusitis) ร่วมด้วย โดยที่สาเหตุของโรคเป็นภูมิแพ้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงพบโรคนี้ร่วมกับโรคหอบหืดในผู้ป่วยคนเดียวกันได้บ่อย

    • ผู้ป่วยที่มีกรดในกระเพาะและกรดไหลย้อนกลับเข้ามาในหลอดอาหาร (Gastro-Esophageal Reflux Disease หรือ GERD) 

    ผู้ป่วยพวกนี้อาจมีไอเรื้อรังได้ รูปที่ 16 เป็นรูปวาดของระบบทางเดินอาหารส่วนบน อาหารผ่านปาก ลำคอ หลอดอาหารส่วนต้น (Esophagus) แล้วลงไปในกระเพาะอาหาร (Stomach) ตรงรอยต่อระหว่างหลอดอาหารส่วนต้นกับกระเพาะอาหารจะมีหูรูดปิดที่เรียกว่า Gastroesophageal Sphincter หรือ Lower Esophageal Sphincter ซึ่งจะกันไม่ให้อาหารและกรดในกระเพาะไหลย้อนกลับขึ้นไปได้

    • ผู้ป่วยที่ทานยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคความดันสูงและโรคหัวใจ

    เช่น ยาพวก ACE Inhibitor อาจทำให้ผู้ป่วยที่ใช้ยานี้มีการไอเรื้อรังได้ พบได้ราว 2 – 14% ของผู้ใช้ อาการเกิดในราว 3 – 4 สัปดาห์หลังใช้ยา การไอมักเป็นแบบไอไม่มีเสมหะ เป็นมากในตอนกลางคืนและเวลานอนราบ อาการจะหายไปเมื่อหยุดยา ยาพวก Beta-Adrenergic Blocking Agent อาจทำให้เกิดการไอในผู้ป่วยที่มีหลอดลมอักเสบเรื้อรังและโรคหอบหืดโดยช่วยทำให้หลอดลมตีบลง

    • ผู้ป่วยที่ใช้เสียงมากๆ

    เช่น ตะโกนมากและพักน้อย เช่น พวกพ่อค้าแม่ค้า หากหยุดพักไม่ใช้เสียง 2 – 3 วัน อาการจะดีขึ้น

    • ผู้ที่ไอหรือกระแอมโดยที่ไม่มีโรค

    เรียก Psychogenic หรือ Habit Cough การวินิจฉัยมักไม่พบว่ามีสาเหตุของการไออื่น สันนิษฐานว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากจิตใจ มีคนเป็นแบบนี้จำนวนมาก

     

    อาการไอเกิดได้จากหลายสาเหตุ ถ้ารู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย หรือรู้สึกกังวลใจเรื่องอาการไอ แนะนำควรเข้าพบแพทย์ เพื่อทำการซักประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด นำไปสู่การวินิจฉัย และการรักษาอย่างเหมาะสม

     

    เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจ

    ที่มาของบทความ

     

    ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่  greenstoneofheathcote.com

    สนับสนุนโดย  ufabet369

Economy

  • ชาวรัสเซียผู้มั่งคั่งหนีไปดูไบเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร
    ชาวรัสเซียผู้มั่งคั่งหนีไปดูไบเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร

    ดูไบกลายเป็นสวรรค์ของชาวรัสเซียผู้มั่งคั่งที่หลบหนีผลกระทบจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกเกี่ยวกับสงครามในยูเครน

    บรรดามหาเศรษฐีและผู้ประกอบการชาวรัสเซียเดินทางถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) มากเป็นประวัติการณ์ ผู้นำธุรกิจบอกกับบีบีซี

    การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบของชาวรัสเซียเพิ่มขึ้น 67% ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2565 รายงานระบุ

    สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่ได้คว่ำบาตรรัสเซียหรือวิพากษ์วิจารณ์การรุกรานยูเครน

    นอกจากนี้ยังให้วีซ่าแก่ชาวรัสเซียที่ไม่ถูกลงโทษ ในขณะที่ประเทศตะวันตกหลายประเทศได้จำกัดวีซ่าดังกล่าว

    มีการคาดกันว่าผู้คนหลายแสนคนได้เดินทางออกจากรัสเซียในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่มีตัวเลขที่แน่นอนก็ตาม

    นักเศรษฐศาสตร์ชาวรัสเซียคนหนึ่งกล่าวว่า ชาวรัสเซียมากถึง 200,000 คนจากไปในช่วง 10 วันแรกหลังสงครามเริ่มขึ้น

    Virtuzone ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ จัดตั้งการดำเนินงานในดูไบ ได้เห็นลูกค้าชาวรัสเซียหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก

    “เราได้รับการสอบถามจากชาวรัสเซียเพิ่มขึ้น 5 เท่าตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น” จอร์จ โฮเจจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว

    “พวกเขากังวลเกี่ยวกับความล่มสลายทางเศรษฐกิจที่กำลังจะมาถึง นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาย้ายมาที่นี่เพื่อรักษาความมั่งคั่งของพวกเขา” เขากล่าวเสริม

    การหลั่งไหลของชาวรัสเซียได้หนุนความต้องการวิลล่าและอพาร์ทเมนท์หรูหรา

    ทั่วเมือง ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์กำลังรายงานราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากชาวรัสเซียที่เดินทางมาถึงดูไบกำลังมองหาซื้อบ้าน

    Betterhomes บริษัทตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ในดูไบพบว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวรัสเซียเพิ่มขึ้น 2 ใน 3 ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565

    และบริษัทอสังหาริมทรัพย์อีกแห่งหนึ่งคือ Modern Living บอกกับ BBC ว่าได้ว่าจ้างตัวแทนที่พูดภาษารัสเซียจำนวนมากเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น Thiago Caldas หัวหน้าผู้บริหารกล่าวว่าพวกเขาได้รับโทรศัพท์มากมายจากชาวรัสเซียที่ต้องการย้ายไปดูไบทันที

    “ชาวรัสเซียที่กำลังลงมาไม่ได้ซื้อเพื่อการลงทุนเท่านั้น พวกเขามองว่าดูไบเป็นบ้านหลังที่สอง” เขากล่าว

    ชาวรัสเซียผู้มั่งคั่งหนีไปดูไบเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร
    ‘การระบายน้ำสมอง

    บริษัทข้ามชาติหลายแห่งและบริษัทสตาร์ทอัพของรัสเซียก็ย้ายพนักงานไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เช่นกัน

    Fuad Fatullaev เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง WeWay บริษัทเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีสำนักงานในรัสเซียและยูเครน หลังจากสงครามสงบลง เขาและหุ้นส่วนได้ย้ายพนักงานหลายร้อยคนไปที่ดูไบ

    “สงครามมีผลกระทบอย่างมากต่อปฏิบัติการของเรา เราไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากเราต้องย้ายผู้คนหลายร้อยคนออกจากยูเครนและรัสเซีย” นายฟาตุลเลฟ ซึ่งเป็นพลเมืองรัสเซียกล่าว

    เขาเสริมว่าพวกเขาเลือกที่จะย้ายพนักงานไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจ

    เขากล่าวว่าธุรกิจของรัสเซียกำลังย้ายออกไปเนื่องจากพวกเขาพบว่าการดำเนินการเป็นเรื่องยากอย่างไม่น่าเชื่อเนื่องจากการคว่ำบาตร ความท้าทายนั้นรุนแรงยิ่งขึ้นสำหรับบริษัทที่ติดต่อกับลูกค้าและแบรนด์ต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทตะวันตกส่วนใหญ่ได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับบริษัทในรัสเซีย เขากล่าว

    บริษัทระดับโลกอย่าง Goldman Sachs, JP Morgan และ Google

    ที่ปิดสำนักงานในรัสเซีย ก็กำลังย้ายพนักงานบางส่วนไปที่ดูไบเช่นกัน

    “มีภาวะสมองไหลเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ผู้คนจำนวนมากกำลังออกไปเพราะตอนนี้มีข้อจำกัดทางธุรกิจมากมาย” นายฟาทุลลาเยฟกล่าว

    ราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น
    ธนาคารกลางของรัสเซียถูกกันไม่ให้แตะเงินสำรองต่างประเทศนับพันล้านที่ถือครองในต่างประเทศในธนาคารต่างประเทศ ธนาคารรัสเซียบางแห่งถูกลบออกจากระบบการส่งข้อความทางการเงินของ Swift

    เพื่อปกป้องทุนสำรอง รัฐบาลรัสเซียได้ออกกฎหมายจำกัดเงินทุนและห้ามประชาชนออกจากประเทศด้วยสกุลเงินต่างประเทศมากกว่า 10,000 ดอลลาร์

    พบว่าเป็นการยากที่จะโอนเงินสด ผู้ซื้อชาวรัสเซียจำนวนมากชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล ผู้ซื้อบางรายมีตัวกลางที่จะรับชำระเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล จากนั้นจึงส่งต่อเงินสดไปยังผู้ขายในนามของผู้ซื้อ

    รัฐอ่าวรวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบียปฏิเสธการเรียกร้อง

    จากรัฐบาลตะวันตกในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย

    สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นหนึ่งในสามประเทศ เช่นเดียวกับจีนและอินเดีย ที่งดออกเสียงในการลงคะแนนเสียงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย นอกจากนี้ยังงดออกเสียงในสมัชชาใหญ่เมื่อวันที่ 7 เมษายน เพื่อระงับรัสเซียจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

    การเพิ่มขึ้นของการลงทุนในรัสเซียมีขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถูกจัดอยู่ใน “รายการสีเทา” โดย Financial Action Task Force (FATF) ซึ่งเป็นองค์กรเฝ้าระวังอาชญากรรมทางการเงินระดับโลก

    หมายความว่าประเทศต้องเผชิญกับการเฝ้าติดตามความพยายามในการต่อต้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้ายมากขึ้น รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อ้างว่าได้ใช้มาตรการสำคัญเพื่อควบคุมการลงทุนขาเข้า และระบุว่ายังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ FATF ในด้านที่ต้องปรับปรุง

    เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเว็บของเรา

    ร้อง กขค.”ร้านถูกดี” เอาเปรียบ

    รีวิวหนัง Money Shot : The Pornhub Story

    เชอริงแฮม ตอบชัดหาก แมนฯซิตี้ คว้า 3 แชมป์ทาบ แมนยูฯ

    เปิดสูตรเมนูคีโต ทำเองง่ายๆราคาไม่แพงแถมดีต่อสุขภาพ

    อาการปวดหัว เดี๋ยวปวด-เดี๋ยวหาย รีบรักษาก่อนสายไป

    ขอบคุณรูปภาพจาก www.pexels.com

    แหล่งที่มา https://www.bbc.com/news/business

    สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่  greenstoneofheathcote.com